วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ก็ยังดี

 #ก้าวร้อยก้าว


ก็ยังดี 


ช่วงนี้ ก็มีเรื่องหนึ่งในชีวิตที่ว้าวุ่น ตามประสาก็คือเรื่องลูกชาย ช่วงนี้ของชีวิตเขา มีกีฬาสี ที่แต่ละปีก็จะมีเรื่องบนจากผู้ปกครองว่าเด็กกลับดึก เด็กหนี เด็กหาย สมัยเราก็ทำนองนั้น คือไปบ้านเพื่อน ไปทำงาน แต่ก็ไม่ได้ไปทุกวัน ไปแค่ช่วงใกล้ๆวันงาน แต่เด็กสมัยนี้ ข้มข้นกว่ามาก หรือไม่พอมาเป็นผู้ประสบภัยจึงรู้สึกว่า แม้เพียงเล็กน้อยของเขา แต่มันดูหนักหนาสำหรับเรากันนะ 


ด้วยความที่ผมเลี้ยงลูกแบบให้เขารับผิดชอบ เติบโต และพึ่งตนเองได้ จนบางทีก็รู้สึกกริ่นเกรงว่า เขาจะระเริงผยอง คะนองใจ ทำอะไรโดยไม่คิดให้รอบคอบ ซึ่งเป็นคุณสมบัติเด่นของวัยรุ่น แต่กระนั้นผมก็ยังไว้วางใจปล่อยให้เขาได้เติบโตและเรียนรู้ ซึ่งหลายครั้งก็ทำให้ผู้พ่อเจ็บปวดใจกลับมา ด้วยเหตุที่การเรียนรู้ของเขา มาพร้อมความเศร้าใจของเรา 


แต่กระนั้น ก็ยังดีที่เขาได้เติบโต ได้รับผิดชอบในตนเองเพิ่มมากขึ้น 


ทุกวันนี้แม้จะไม่ได้คุยกันมาก ตามประสบวัยรุ่นชาย ก็ประมาณนั้นเพราะสมัยก่อน แม่ผมโทรหาก็แถบจะเคี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง ดีที่สมัยนั้นเป็น 3310 ถ้าเป็นสมัยนี้ไม่ไหวแพงจัด แต่กระนั้นพอเติบโตแล้วเราจึงค่อยๆรู้รส คุณค่าของความรัก สิ่งเหล่านี้ คงต้องใช้เวลาสักครู่ขณะ จะใหญ่หรือเล็ก ก็ตามนั้น ไม่ได้อะไรยังไงกับมัน 


การทักทายบ้าง โทรหาบาง รับบ้าง ไม่รับบ้าง ก็ยังดี กว่าขาดหายไป การคุยบ้าง ได้ยินเสียงบาง ตอบกลับบ้าง ก็ยังดีกว่าทิ้งขาดไป ทำให้ชีวิตเป็นธรรม เรียนรู้เลิกเติบโตไปกับเขา สร้างวินัยให้ตนเอง


ในความพ่อ บางเรื่อง บางข้อผมก็ยอมรับว่าขาดตกบกพร่อง บางเรื่องบางอย่าง ผมก็ทำได้ดี แต่บางครั้งบางที ความดีของผม ก็อาจไม่ดีของเขา หรือ ไม่ดีในใจเขา ซึ่งก็คงต้องเราขอให้ รู้ตัว รับรู้ หรือ รอวันเวลาที่จะคลี่คลาย เฉย ออกมา 


รับผิดชอบ รอบคอบ มีวินัย มีบ้างก็ยังดี ^-^


22 พย 67

วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2565

ก้าวร้อยก้าว | จอมยุทธ์ | 17 กย 65

#ก้าวร้อยก้าว

.

จอมยุทธ์


.

ยัง move on ไม่ได้จริงๆ กับการสอบ สป.ศธ ที่ได้ลำดับไม่สูง แต่ก็ลำดับไม่ไกล และข้อมูลในมือที่ชี้ว่า เรียกได้มาก แต่พอเอาเข้าจริงกลับเรียกได้น้อย ซึ่ง ก็ไม่แปลกตามประสาราชการส่วนกลาง ที่จะมีอัตราการเรียกบรรจุประมาณนี้ ผมจึงยังสาละวนกับเรื่องรักๆ รอๆ อยู่ประมาณนี้

.

โชคดีเมื่อวานได้คุยกับน้องสาวคนหนึ่ง ถึงการสอบ ของ พช. ที่เกิดขึ้น เห็นอัตราบรรจุแล้วน่าอิจฉา ปี 62 บรรจุ พันกว่าอัตราแล้วเรียกหมด แต่ ก็เหมือน แต่ละคนอยู่ได้ไม่นานด้วย และตำแหน่งนั้นเป็นตำแหน่งหลักขององค์กร ที่จะต้องหมุนเวียนเติมเต็มหลายที่ด้วย จึงทำให้อัตราบรรจุเรียกเยอะจนหมด

.

แต่คำว่าหมดบัญชี ก็เป็นคำที่หลอนในใจคนสอบ อยากให้หมดร่ำไป โดยมักขาดข้อมูลว่า เหตุใดถึงหมด หรือ เหตุใดไม่หมด หลายครั้งเราไม่ได้คุยบนความรู้ เราคุยบนความเชื่อ ไม่แปลกใจเลยที่ นักสอบหลายสนาม ที่ชำนาญยุทธภพการสอบ ไม่ปริปากร้องแรกแหกกระเชิง มุ่งมั่นในการสอบ ไม่ได้ก็ไปต่อ อยู่ไม่สบายก็โผบินไปที่ใหม่

.

เหตุที่กล่าวอย่างนี้เพราะ เมื่อวาน ด้วยความสงสัยจึงหยิบเอาชื่อเพื่อนๆ ก่อนหน้าลำดับผม มาค้นหาดู เมื่อค้นจึงพบและไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงติดต้น ๆ

.

.

หลายคนในต้นบัญชี ส่วนใหญ่ติดบัญชีแล้วหลายสนาม หลายคน เรียกแล้วบรรจุแล้ว เป็นข้าราชการแล้ว หลายสังกัด ก็มี แต่ต้องการเปลี่ยนที่ทำงาน กลับบ้าน สร้างโอกาสให้ตัวเอง

.

วิถีราชการก็คงประมาณนี้ แต่อาจเพราะไอ้เรา แก่เฒ่าแล้ว จึงได้แต่ สงสัย และเมื่อไม่ได้ลงในยุทธภพเมื่อยามหนุ่มมีไฟ เมื่อเห็นร่องรอยการต่อสู้ของ น้องๆ พี่ๆ อันดับต้นๆ ก็เลื่อมใสน่านับถือยิ่ง

.

ดังคำว่าความพยายามอาจไม่มีหมุดหมายในความสำเร็จ แต่ความสำเร็จมีความพยามเป็นหมุดหมาย พวกเขาพยายามอย่างมาก อ่านหนังสือ สอบ ตก สอบติดบัญชีเรียกไม่ถึง สอบ ติดบัญชี ติดสำรอง และวันหนึ่ง เขาก็จะสอบ ติดบัญชี ต้นๆ จนกระทั่งสอบ ติดบัญชี เรียกรอบแรก

.

ผมคิดว่าน้อยมากที่จะสอบครั้งแรก และครั้งเดียวก็ติดเลย อาจจะเก่งจริงๆ มีทักษะจริงๆ และต้องเรียกว่าน่านับถือจริงๆ สำหรับคนเหล่านี้ ซึ่งต้องชื่นชมการศึกษ และสภาพแวดล้อมที่ทำให้เขาเป็นคนชั้นนำที่สามารถก้าวผ่านการสอบอันยากลำบากมาได้ และหลายคนก็ออกปากว่า ง่าย ไม่ยาก ทั้งๆ ที่มีซากศพแห่งความล้มเหลวอยู่เรือนแสนราย

.

จากร่องรอยนั้นทำให้ผมเข้าใจว่า ชีวิตการสอบ ต้องฝ่าฟันอีกมาก การสอบตกสองสนาม และการขึ้นบัญชีเพียงสนามเดียว สนามแรก ไม่ได้การันตีความสำเร็จใดๆ

.

การสอบแล้ว คิดว่าจะเรียกเลย ได้ที่หนึ่งทันที พวกนี้ก็เว่อร์ไป สำหรับ คนที่พึ่งเข้าสู่วงการ

.

และไอ้คำว่า อ่านหน้าห้องสอบนิดหน่อย หรือ ไม่มีเวลาอ่านอย่างยาวนาน แต่อ่านช่วงก่อนสอบบ้าง เป็นการอ่านทบทวน ก็มีอยู่จริง แต่นั่นเพราะ เขาอ่านสะสมเป็นจำนวนมหาศาลแล้ว

.

การสอบ สำหรับผม ณ วันนี้ เป็นเรื่องน่าสนุก น่าอัศจรรย์ยิ่ง เสียดายเวลาที่ผ่านไป ที่ไม่ได้ ลงลุยกับมัน และมาพบความสำราญ เมื่อขวานเริ่มบิ่นแล้ว อ่านเท่าไหร่ก็ไม่จำ และโรยรินเกินไปที่จะลุยงานได้หลายกระทรวง

.

.

สำหรับผมในวันนี้ อยากชี้ชวน คนรุ่นใหม่ ให้สอบราชการครับ แน่นอน มันไม่ใช่อะไรมากมาย หรือ การเปลี่ยนชีวิต ให้ดีจากหน้ามือหลังมือ แต่เป็นการทดสอบความสามารถ สร้างธุรกิจด้วยต้นทุนต่ำ(หากเทียบกับการเปิดร้านขายของ) และมันแถบจะเรียกว่า ลงทุกครั้งเดียว กฎหมายแต่ละฉบับ ยกเว้นรัฐธรรมนูญ ไม่ค่อยเปลี่ยนะ

.

ดังนั้น เมื่อคุณ เริ่มสอบได้ คุณก็จะสอบได้ไปเรือยๆ และหากคุณยังสอบไม่ได้ แต่มันก็จะทำให้คะแนนคุณขยับขึ้นเรื่อยๆ จนใกล้ อีกนิด และผ่าน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะถึงฝัน

.

แน่นอน ทุกคนที่สอบ นอกจากความรู้ จะต้องมีโชคด้วย ดังจอมยุทธ ที่โลดเล่นทั้งหลาย ดังผองมิตรที่บรรจุกัน หลายคน ที่สอบได้ สอบติด หรือสอบใหม่ พวกเขาเหล่านั้น ผ่านความสำเร็จ และล้มเหลวมามากมาย และหากเขายังไม่ตายจากยุทธภพการสอบ วันหนึ่งเขาก็จะได้ถึงฝัน ได้จารึกชื่อ ในความสำเร็จ ที่เราตั้งใจ

.

จนกว่าจะถึงวันนั้น จนกว่าครุฑจะบิน

.

นฤเทพ

หอสมุดลำพูน

.

#เล่าร้อยก้าว

วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สร้างและรักษา สมดุลชีวิตจัดพลังชีวิตเพื่อพร้อมก้าวต่อไป

สร้างและรักษา สมดุลชีวิตจัดพลังชีวิตเพื่อพร้อมก้าวต่อไป
------
#๓๐ความคิดชีวิตดี๊ดี |๑|๐|๑|

เป็นความตั้งใจแต่แรกเมื่อเห็น project นี้ ที่เขียนเรื่องราวดีๆ

ติดต่อกันเป็นเวลา ๓๐ วัน ผมเห็นว่าดีด้วย เลยนึกสนุก

อยากเล่นด้วยกับหลานคน เพราะหนังสือหลายเล่มที่อ่าน

พูดตรงกันว่า การทำอะไรต่อเนื่อง จะเกิดเป็นนิสัย

หากเราสร้างนิสัยที่ดีติดต่อกัน เราจะยกระดับคุณภาพของเราได้

(น่าสนุกดี)
.
เรื่องแรกของวัน ของเดือน หรือของปี ที่จะเล่า จึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับ "สมดุล"

ผมเชื่อเรื่องการสมดุลมากที่สุด เรื่องหนึ่ง

เพราะอยู่บนโลกที่มีขั้วเหนือ ขั้วใต้ มีตะวันออกมีตะวันตก

มีขาวก็มีดำ มีสุข ก็มีทุกข์  นั่งหมายความว่า ย่อมีสองสิ่งเสมอ

ในเหตุการณ์เดียวกัน

พระพุทธเจ้าสอนเรื่องทางสายกลาง การรักษาในไม่ใช้สุข หรือเศร้า

สิ่งนี้ยิ่งย้ำให้ผมเชื่อมั่นที่สุดว่า คนเราควรมีสมดุลของชีวิต

เพื่อก้าวต่อไปในวันข้างหน้า

เพราะความสุข เป็นเสมือนพลังผลักดันใจ

และความทุกข์ ก็เป็นเหมือนเสาเข็มเพื่อปักให้เรามั่นคง
.
ทุกด้านของชีวิตล้วนเป็นเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้น

สุดแท้แต่เราจะเลือกรับ และเข้าใจเพื่อเป็นประโยชน์แก่เรา

และก้าวไปอย่างมั่นคง

======
ปีใหม่นี้ เราจัดสมดุลของชีวิตกันอย่างไรครับ
วางฐานใจให้สุข แต่ไม่ระวังทุกข์ที่อาจแทรก
หรือหลงอยู่แต่กับทุกข์ จนไม่เตรียมตัวที่จะสร้างความสุขหรือไม่
รักษาใจให้ดีครับ และก้าวต่อไปพร้อมกัน กับปีใหม่

นายออส นฤเทพ
๑ jan ๒๐๑๖


วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ทุกเรื่องในชีวิต ล้วนเป็นบทเรียน ทำให้เรา เก่งและแกร่งขึ้นเสมอ

ทุกเรื่องในชีวิต ล้วนเป็นบทเรียน ทำให้เรา เก่งและแกร่งขึ้นเสมอ
-----
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดต้องการการเติบโต ทั้งภายในและภายนอก

แต่เขาจะโตไม่ได้หากไม่มีอุปสรรค์

ลมแรง แดดจ้า พายุฝน หรือแม้แต่สรรพสิ่งเบียดเบียน

การเติบโตโดยไร้ซึ่งปัญหา ความอึดอัด

นำพาไปสู่การเติบโตที่ไม่แข็งแรง
.
วันก่อนผมพูดคุยกับเพื่อนบ้าน ถึงต้นไม้ลำไย

สมัยก่อนเลี้ยงแบบธรรมชาติ รากยืดยาว ไหลไปเต็มสวน แต่มั่นคง

พอมีพายุใหญ่ ก็ล้มกันแต่ส่วนใหญ่ ยังเหลือ ราก ตน พอให้เติบโต

สมัยนี้ เลี้ยงแบบอ่อนแอ ป้อนอาหารกันง่ายๆ โตกันง่ายๆ

หากมีพายุใหญ่ เห็นท่าว่าจะหลุดปริ้วออกทั้งราก ทั้งโคน

เพียงเพราะต้นเคราะ หากินไม่เก่ง รากหยั่งไม่ลึกพอ

ชีวิตของเราก็เช่นกัน เติบโต ต้องผ่าน สิ่งท้าทาย

อุปสรรคนานับประการ ยิ่งพบมาก รากยิ่งลึก ยิ่งหากินเอง

ความมั่นคง จะเกิดขึ้น เพราะรากของชีวิต ได้หยังลึก แพร่กระจาย

ออกหากิน และยึดเกาะดินอย่างแข็งแรง

เมื่อถึงคราว "มรสุม" ก็ไม่หวั่น และพร้อมที่จะล้ม และลุกขึ้นใหม่

=====
ปีใหม่นี้ เราพร้อมที่จะเติบโตกันหรือยังครับ
พร้อมที่จะก้าวไปสู่สิ่งใหม่ สิ่งที่ดีกว่า
ด้วยฐานของประสบการณ์ที่ผ่านมา มากน้อยเพียงใด
ทุกเรื่องในชีวิต ล้วนเป็นบทเรียน ทำให้เรา เก่งและแกร่งขึ้นเสมอ

นายออส นฤเทพ
31.DEC.2015

วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การได้มีเวลาคุยกับตัวเอง เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด วิเศษที่สุด

การได้มีเวลาคุยกับตัวเอง เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด วิเศษที่สุด
-----
‪#‎30ความคิดชีวิตดี๊ดี‬
เหตุผลสำคัญของคนที่ก้าวหน้า คือเขาจัดเวลาสำหรับ ทบทวนตัวเอง
พูดคุยกับตัวเอง ถึงจังหวะก้าวในแต่ละวัน แต่ละสัปดาห์ เดือน ปี
ว่าที่ผ่านมา มีจุดไหน ที่สำเร็จ ปรับปรุง และจะก้าวต่อไปอย่างไร
หากปีนี้ เราได้ทำสิ่งที่ตั้งใจแล้ว ปีหน้า อยากทำอะไร
ชวนให้ลองคุยกับตัวเอง คุยกับใจของตัวเอง
ว่าเรายังต้องการสิ่งไหนเพิ่ม และจะแบ่งปันสิ่งที่เพิ่ม
หรือสิ่งที่มีอยู่อย่างเหลือล้น ให้แก่ผู้คนอย่างไร
.
ปีใหม่ที่ใกล้มาถึงนี้ เป็นจังหวะที่ สำหรับการทบทวนตัวเองครับ
อยากชวนทบทวนตัวเอง เพื่อก้าวกระโดดในปีต่อไป
======
ไม่ว่า สถานการณ์ โลกจะเป็นอย่างไร
ไม่ว่าสภาพแวดล้อมจะดีหรือร้าย
หากเรารักษา ฐานที่มั่นภายในใจเราอย่างยอดเยี่ยม
ชีวิตที่เยี่ยมยอด ก็รออยู่ เพียงแค่เอื้อม....เท่านั้น
นายออส นฤเทพ
30.DEC.2015

วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2558

5 ปัจจัยสร้างนายจ้าง เจ้าของกิจการ และเสี่ย/เจ๊

‪#‎30ความคิดชีวิตดี๊ดี‬ ‪#‎เล่าร้อยก้าว‬
จากประสบการณ์ของผมพบว่า หลายคนอยากเติบโตเป็นเจ้าของกิจการ หลายคนอยากมีอยากเป็น แต่มีไม่กี่คนที่ได้มีได้เป็น ปัจจัยเหล่านั้นที่ส่งให้พวกเขา คืออะไร ผมขอนุญาตเล่าตามประสบการณ์ของผมนะครับ หากท่านใดคิดว่า มีส่วนขยาย เติมได้ด้วยความยินดี

1. ความรู้สึกเป็นเจ้าของ
...หลายคนสนใจที่อยากมีกิจการ แต่ส่วนใหญ่มักไม่อยากเป็นเจ้าของ ไม่อยากรับผิดชอบ ไม่อยากลงมือ หรือลงลุย เพราะเจ้าของต้องเติบโตไปกับกิจการ และเมื่อล้มก็พร้อมเจ็บไปกับสิ่งเหล่านั้น ซึ่งสิ่งนี้เป็นปัจจัยแรกที่ทำให้ผู้ประกอบการ สง่างาม ในเวทีธุรกิจ และรักที่จะทำงานทุกวัน

2. พัฒนาตนเองอยู่เสมอ
....เมื่อเรารัก และเป็นเจ้าของสิ่งใด สิ่งต่อมาคือการทำให้สิ่งนั้นดีที่สุด ยอดเยี่ยมที่สุด คงไม่มีใครอยากหยุดอยู่กับที่ เพราะการอยู่กับที่ หมายถึง "ล้าหลัง" เพราะโลกเปลี่ยนแปลงทุกวัน ยิ่งยุคนี้เรียกว่าโลกหมุนเร็ว แทบหลับตาเลยทีเดียว ฉะนั้น เจ้าของกิจการ มักหาสิ่งใหม่ และพัฒนาตนเองให้สร้างสิ่งที่ดีกว่าสู่ตลาดเสมอ

3. ทัศนะคติแบบผู้นำ
..... ผู้นำ ในที่นี้คือ คุณลักษณะ ซี่ง ผู้นำมีได้ทุกมิติ ทั้งลูกจ้าง นายจ้าง พี่น้องผองมิตร ซึ่งผู้นำ มักเป็นทั้งพี่ เป็นเพื่อน เป็นหัวหน้า และเป็นลูกน้องได้ ในทุกสภาวะ แต่ผู้นำที่มีคุณลักษระเด่นคือ พร้อมที่นำพาคนอื่น เดินตาม กล้าที่จะก้าว กล้าที่จะตัดสินใจ การมีวิสัยทัศนแบบผู้นำ จะทำให้เราก้าวไปสู่จุดหมายได้

4. เป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่
..... คำว่าให้ กับ เสียสละ ต่างกันตรงที่การขาด หรือ เรายังมีมากพอ ฟังๆดูแล้ว เหมือนพวกโลกสวน แต่นี่เป็นเรื่องของทัศนคติจริงๆ เพราะนายจ้างส่วนใหญ่ ล้วนเลือกที่จะให้(ให้ความไว้วางใจ/ ให้โอกาส / ให้อนาคต) สิ่งเหล่านี้จะเป็นแรงผลักให้กิจการของเราก้าวหน้าไปได้ หรือหากกิจการไปได้ เขาก็เลือกที่ให้สิ่งที่ดีที่สุด สินค้าที่ดีที่สุด บริการที่ดีที่สุด เพราะโลกยุคใหม่ ผู้ที่เสนอสิ่งที่ดีที่สุด ย่อมมีโอกาสสูงสุด และอยู่ได้ยาวนานสุด จะเห็นว่า หากกิจการของเรา มองว่าจะหากำไรได้มากที่สุดอย่างไร เท่าที่ผมเห็น ไม่มีกิจการไหน อยู่ยาวนานเป็น 5 ปี 10 ปี สักราย เพราะโลกนี้มีสมดุล เมื่อรับ และต้องส่งต่อ เป็นหลักธรรมชาติ

5. เงินทองเป็นของนอกกาย
..... สุดท้ายเป็นเรื่องของ "เงิน" ถูกแล้วครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราเข้าใจกันผิดตลอด คิดว่าคนรวยต้องมีเงินมาก แต่เปล่าเลย คนรวย เจ้าของกิจการนั้น ก็มีเงินเท่าเรานั่นแหละ(หักลบกลบหนี้แล้ว) หรือใครที่มีมาก เขาก็เลือกที่จะใช้จ่าย หรือ แบ่งปัน ให้แก่ผู้คน เพราะรู้ว่า เงินทองไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะหากเมื่อไหร่ เราเอาใจของเราไปผูกกับเงิน เราเป็นทาสเงิน เงินก็จะมีอิทธิพลเหนือเรา เมื่อเราล้ม เจ๊ง หรือหมดตัว ก็พาคิดว่า หมดแล้วชีวิต ... แต่ทว่า หากเราเป็นเจ้าของตัวจริง ผู้ประกอบการตัวจริง ไม่ว่าปัญหาอุปสรรค์อย่างไร เราจะผ่านมันไปได้ เพราะเงินคือเครื่องมือของเรา เครื่องมือที่ช่วยให้เราทำงานได้ต่างหาก

 5 ปัจจัยนี้ เสมือนการปรับฐานความคิด เพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้ประกอบการ เสมือนการก้าวขึ้นบันไดขั้นแรก แน่นอนไม่ง่ายนักที่จะผ่านไป แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะทำให้มันสำเร็จ ... ในเมื่อมีคนที่ทำสำเร็จอยู่มากมาย เราเอง ก็ควรเป็นหนึ่งในนั้นนะครับ
==========
นายออส นฤเทพ
นักคิด นักเขียน นักพัฒน์ @2016
29.DEC.2015

3 คำถามโดนใจ เพื่อตรวจสุขภาพเป้าหมายในปีนี้

3 คำถามโดนใจ เพื่อตรวจสุขภาพเป้าหมายในปีนี้
------
‪#‎30ความคิดชีวิตดี๊ดี‬ ‪#‎งานปันสุข‬
ใกล้สิ้นปีแล้ว ใครมีเป้าหมาย หรือตั้งเป้าหมายไว้ ถึงกันบ้างไหมครับ วันนี้ผมอยากชวนทบทวนความสำเร็จ ด้วย 3 คำถาม เพื่อตรวจสุขภาพของเป้าหมาย ที่เราคิด เราฝันไว้ในช่วงปลายปีครับ

หากถามว่า แต่ละคนมีเป้าหมายอะไรกันบ้าง บางคน ก็เรียกว่า เป้าหมาย บางคนก็เรียกความอยาก บางคนก็เรียกภาระกิจ "ต้อง...." ซึ่งน้ำหนักของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่นั่นถือเป็นก้าวแรกของการเดินทางแล้ว ที่เหลือ คือต้องคอยตรวจสอบอยู่เสมอว่า ใช่ไหม
เราเดินทางถูกทางหรือไม่ ผมเลยนึกถึง 3 คำพูดที่มักใช้กัน และเอามาใช้กับการทดสอบเป้าหมายของเรา

1. ฉันมาทำอะไรที่นี่....
...หลายครั้งเราคงเคยคิดว่า คนเรามีเรื่องให้ต้องคิดมากมาย ต้องทำก็เยอะ แต่จะมีสักกี่ครั้งที่รู้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ บางครั้ง การสอบถามตัวเอง ถามใจตัวเองว่า สิ่งที่กำลังทำ "ทำไปทำไม...?" หรือ "ฉันมาทำอะไรที่นี่...?" ก็ดีเหมือนกัน เพื่อชวนให้เรารู้ว่า เรากำลังมาทำอะไร หรือเรามาถูกทางหรือไม่ ที่ที่เราอยู่ ส่งผมให้เราก้าวต่อไปอย่างไร .... อันนี้น่าคิดมาก เพราะหลายครั้ง ผมมักตั้งคำถามว่า ฉันมาทำอะไรที่นี่ หากใช่ นั่นเป็นการตอกย้ำว่า ฉันมาถูกทางแล้ว หากไม่ใช่เราจะได้กลับตัวกลับใจทันที

2. เรามาถึงตรงนี้ได้ยังไง....
...ผมเคยคุยกับลุงท่านหนึ่ง ถึงการสร้างเยาวชน หรือ คนรุ่นใหม่ ที่กลับมาทำงานให้บ้านของเรา คำถามที่ลุงเขาถามกลับมาคือ ต้องย้อนถามว่า "เรามาถึงตรงนี้ได้ยังไง" เพราะแต่ละคนล้วนมีจังหวะก้าวที่ไม่เหมือนกัน มีการเดินทางที่แตกต่าง เมื่อถึงจุดหนึ่ง การหยุดทบทวน ก็เป็นเรื่องดีเช่นกัน เพราะทำให้เราได้เข้าใจว่า เราทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร และเราจะไปต่ออย่างไร หรือหากผิดพลาด เราจะแก้ไขอย่างไร หรือ หากเราต้องการทำซ้ำ ซำเสริมความสำเร็จ เราจะต้องเริ่มที่ตรงไหน

3. ทำไปเพื่อ.........?
...ท้ายที่สุด แต่ละปี แต่ละเป้าหมายเมื่อเราลงมือทำ ก็สำเร็จแล้ว แต่มากน้อย ใกล้ ห่าง ย่อมเป็นเรื่องปกติ (สำหรับผมรับได้) แต่สำคัญว่า เราจะก้าวต่อไปอย่างไร จะปรับแก้อย่างไร และทำไปเพื่ออะไร หนึ่งเป้าหมายย่อมหลากหลายวิธีการ ปลายทางที่ตั้งไว้ไม่เคยกำหนดวิธีการไปถึง แต่สำคัญที่ว่า สิ่งนี้ ทำไปเพื่ออะไร... เราเองก็คงเหมือนนักมวย ที่ซ้อมอย่างดี เป้าหมายครองแช้มป์ แต่เมื่อขึ้นเวที อาการเมาหมัดเป็นไปได้ไม่ยาก หากได้มีเวลาพักยก ลองทวนดูสักนิดกว่า สิ่งที่เรานำนี้ เพื่ออะไร หากไม่ใช่ เราจะได้ปรับแก้ไขได้ และจะได้ไปต่อ จะได้เป็นแช้มได้อย่างที่ต้องการ
ทั้งหมดเป็นการสรุปความคิด จากที่ได้ฟัง ได้อ่าน และได้ประสบมา กรองมาเป็นบทความ เพื่อกำหนดก้าวของผม และเป็นเครื่องมือประหยัดเวลาของเพื่อนๆ ในการก้าวต่อไปในปีใหม่ครับ
==========
นายออส นฤเทพ
นักคิด นักเขียน นักพัฒน์ @2016
29.DEC.2015

ก็ยังดี

 #ก้าวร้อยก้าว ก็ยังดี  ช่วงนี้ ก็มีเรื่องหนึ่งในชีวิตที่ว้าวุ่น ตามประสาก็คือเรื่องลูกชาย ช่วงนี้ของชีวิตเขา มีกีฬาสี ที่แต่ละปีก็จะมีเรื่อ...