นับตั้งแต่มีคำว่าถนนคนเดินเกิดขึ้นมาเกือบ 10 ปี ซึ่งจริงแล้วผมคาดว่าไม่ใช่เรื่องใหม่เลย เพราะเราเองก็มีวัฒนธรรมการค้าการขาย ไม่บนถนนก็ทางน้ำมาช้านานแล้ว ทั้งในส่วนของการเปิดกาดนัด (ตลาดนัด) กาดงัว กาดโก้งโค้ง กาดมั่วคัวแลง ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ไม่ได้ขายบนสวนหย่อม หรือในตลาดเช่นปัจจุบันแต่เป็นวิถีของการค้าการขายบนท้องถนนนี่แล หากนับกาดงัวเป็นจุดเริ่มต้น(ตลาดแลกเปลี่ยนซื้อขายวัว) ถนนที่เต็มไปด้วยการค้าสัตว์ทั้งมีชีวิต และแปรรูป คนที่สนใจก็ตามมา หาการการกินที่จะต้องให้คนที่มาซื้อขายก็จะนำมาวางขายแก้หิวนอกจากคนซื้อแล้วผู้ติดตามที่ไม่อยากดูงัว ก็มีสินค้า บริการ หรือศิลปะการแสดงอื่นๆให้ได้ชม และเชื่อว่านี่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของกาด หรือตลาดในบริบทต่างๆ จนยกระดับสู่การเป็นตลาดที่เป็นหลักแหล่ง ถูกสุขลักษณะเช่นปัจจุบัน

ลำพูนเป็นเมืองเล็กๆเมืองหนึ่งที่มีอายุของถนนคนเดินน่าจะเกือบ 10 ปีสำหรับการจัดกิจกรรมถนนคนเดินด้วยแนวคิดของการสร้างพื้นที่การค้าชุมชน ให้คนในพื้นที่ได้มีพื้นที่ค้าขายศิลปหัตถกรรม อาหาร พืชผักที่หาได้ ปลูกได้ในพื้นที่ ตลอดจนดึงนึกท่องเที่ยวหรือเป็นแหล่งพักผ่อนของคนในพื้นที่เอง นิยามของถนนคนเดินแม่ฮ่องสอน นายกสุเทพ (อดีตนายกเมืองแม่ฮ่องสอน)ให้เกียรติเล่าให้ผมฟังว่า ด้วยความที่แม่ฮ่องสอนเป็นเมืองเล็กๆกลางคืนไม่ค่อยมีพื้นที่ในการท่องเที่ยวจึงจัดให้มีถนนคนเดินเปิดทุกวัน ถึงแม้จะเป็นพื้นที่เล็กๆแต่ก็อุดมไปด้วยคนตลอดเวลา ที่ลำปาง(กาดกองต้า)เป็นถนนคนเดินที่ผมถือว่ายาวที่สุด เพราะอาศัยพื้นที่ถนนที่ติดลำน้ำวังเลียบตรอกเหล่าโจ(ถ้าจำไม่ผิดนะครับ) ซึ่งเล่าสืบต่อกันมาว่าเป็นพื้นที่ของการค้าการขายในอดีต บ้านบริเวณริมน้ำมักมีสถาปัตย์กรรมที่เป็นกึ่งพม่า ยุโรป จีน ปะปนกันไปหมดแสดงให้เห็นถึงความเจริญเติบโตของคนในอดีต ปัจจุบันทุกวันเสาร์จะมีการเดินขวักไขว่และสร้างพื้นที่ค้าขายให้คนในพื้นที่ได้มากทีเดียว

ที่ผ่านมาพัฒนาการของถนนคนเดินเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าจะเป็นเมืองเล็กเมืองใหญ่ต่างหวังจะให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้ ถนนคนเดิน เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นนอกจากการจัดงานนิทรรศการ หรืองานประจำปีที่เกิดขึ้นแต่แน่นอนว่าเหรียญย่อมมีสองด้าน สิ่งที่กระทบต่อคนในวิถีชีวิตของคนพื้นที่ ชุมชน สังคม เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเผชิญจากข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือหลายกลุ่มชี้ให้เห็นถึงปัญหาเดียวกันที่เกิดขึ้นจากถนนคนเดินนั่นคือการเป็นพี้นที่ค้าขายเสมือนหนึ่งตลาดนัดที่ขาดเสน่ห์และทำให้คนในพื้นที่ไม่ได้ประโยชน์จากการค้าขายสินค้าอย่างแท้จริง สภาพความแออัดของพื้นที่เมื่อจัดงานทำให้เกิดผลกระทบต่อสิงแวดล้อมขยะ การจัดการบางพื้นที่ไม่มีการบริหารจัดการที่ดี ทำให้เกิดปัญหาตามมา การเกิดมาเฟียในการต่อรองพื้นที่ค้าขายจนกลายเป็นเม็ดเงินมหาศาลของคนกลุ่มเล็ก ๆ และที่สำคัญคือการทำให้เกิดแหล่งนัดพบของคนหนุ่มคนสาวที่จะได้ออกบ้านพบปะเดินจับไม้จูงมือและหายไปจากพื้นที่สาธารณะและอาจทำให้เกิดปัญหาด้านชู้สาวตามมา
ถนนคนเดิน เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นพื้นใดก็ตาม แต่การเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจ กับการพัฒนาสังคมควรควบคู่กันไปหากเน้นด้านใดด้านหนึ่ง และละเลยด้านใดด้านหนึ่งสุดท้ายก็ไม่อาจทำให้ชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่สมเจตนาเบื้องต้นที่อยากให้เกิดพื้นที่ทำกินอย่างธรรมชาติได้

