สมัชชาสุขภาพลำพูน สมัชชาสุขภาพกึ่งสำเร็จรูป (1)
จบไปแล้วครับสำหรับสมัชชาสุขภาพ ท่ามกลางความรู้สึกยินดี เต็มอิ่ม เหน็จเหนื่อย และชื่นใจ ทั้งคณะทำงาน(ผู้จัด ภาคีร่วมจัด และผู้มีส่วนร่วม) ประชาชนคนลำพูน(ผู้ร่วมงาน เข้าร่วมแลกเปลียนเรียนรู้กระบวนการสมัชชา และผู้ร่วมกันในทุกมุมมอง) และผู้สนับสนุนหลักอย่าง สช.(นำโดยพี่สุทธิพงษ์ น้องดี้ และน้องเหมียว) ที่ต่างฝ่ายต่างชื่นชมซึ่งกันและกัน ต่างหนุนเนื่อง เสริมแรงกันและกันให้มีพลังในการพัฒนากระบวนการผลิตนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมให้แก่คนลำพูน
ปีนี้เป็นปีแรกที่ประชาชนคนลำพูนได้มีโอกาสสัมผัสกระบวนการสมัชชาสุขภาพอย่างเป็นทางการครับ เนื่องด้วยกระบวนการสมัชชาสุขภาพปกติจะจัดกันที่ กทม. และเป็นงานใหญ่ ซึ่งมีตัวแทนจังหวัดลำพูน หน่วยงานภาครัฐ แบบนับคนได้ที่จะเข้าร่วมงานนี้ แต่นับจากนี้ต่อไป จังหวัดลำพูนจะได้มีโอกาสสัมผัสงานเช่นนี้ต่อเนื่องต่อไป และได้เรียนรู้พัฒนาการกันอย่างมีระบบ ซึ่งระบบที่ว่านี้ก็เสมือนคำว่ากึ่งสำเร็จรูปตามหัวข้อข้างต้นครับ
น่าจะประมาณปี 45 ที่กระบวนการสมัชชาสุขภาพเกิดขึ้นในจังหวัดลำพูนตั้งแต่เป็นประชาคม และยกระดับสู่สมัชชา มีหลายเรื่องที่ภาคประชาชนเสนอ และร่วมกันผลักดันให้เกิดเป็นรูปธรรม เช่น มติลดการฆ่าตัวตาย มติด้านหมอกควัน ซึ่งต้องยอมรับว่าความตื่นตัวของประชาชนในยุคสมัยแห่งการพัฒนายังถือว่าเริ่มผลิบาน กระบวนการมีส่วนร่วมเป็นเรื่องใหม่ที่ประชาชนต้องตื่นตัว และเริ่มพัฒนา จนกระทั่งปี 2556 กระบวนการสมัชชาสุกงอมเต็มที่และผลิตคู่มือปกสีขาว เพื่อทำให้เกิด คณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพจังหวัด (คจ.สจ.) และหน่วยเลขานุการกิจ ซึ่งเป็นเหมือนคณะมดงานที่ช่วยเคลื่อนเรื่องนี้ ให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม โดยมีกรอบ กระบวนการมาเป็นเครื่องมือช่วยหนุนเสริม อีกทั้งคณะทำงานหลายคนมีแนวคิดจากกระบวนการสมัชชาชาติมาช่วยประกอบให้ลำพูนมีกระบวนการสมัชชาที่เข้มข้นมากขึ้น
ภายใต้กระบวนการเวทีสมัชชาจังหวัดครั้งที่ 1 ของคนลำพูน มีหัวข้อที่นำเข้าสู่ที่ประชุมหลัก 3 ประเด็นได้แก่ 1)ความมั่นคงทางอาหารเพื่อสุขภาวะของคนหละปูน 2) การขับเคลื่อนน้ำมันทอดซ้ำโดยคนหละปูน และ 3) พืชผักปลอดภัยสร้างความมั่นใจสู่ผู้บริโภค โดยทั้ง 3 มติผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมสมัชชา โดยรายละเอียดของมติได้มีการตั้งชุดติดตาม เสมือนกรรมการธิการเข้าดูแลรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทำให้งานสมัชชาสุขภาพครั้งนี้แม้ปิดฉากลง แต่ถือเป็นการเปิดฉากของกระบวนการสมัชชา ที่จะต้องเร่งสร้างให้เกิดขึ้นในจังหวัดลำพูน และสำหรับกระบวนการพัฒนาของข้อมติ จะขอนำเสนอในคราวต่อไปครับ
วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557
วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557
ทริปเดินทางสร้างนโยบายสาธารณะ NHA2014
ปิดฉากแรก และพร้อมเปิดฉากต่อไปครับสำหรับวันนี้(12 กย 57) การพัฒนานโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม ตามที่ผมได้ post ไว้ก่อนหน้านี้ทริปนี้ค่อนข้างสมบุกสมบรร แบบบอกไม่ถูกของคุณที่สุดคือน้องโต้ง และพี่เปิ้ล สช.ที่เอื้อเฟื้อห้องน้ำให้ได้อาบน้ำในช่วงเช้า ไม่งั้นก็คงดูไม่จืดทั้งวันเลยครับสำหรับวันนี้
เริ่มต้นผมเดินทางจากเชียงใหม่ด้วยสายการแล่น(เพราะอยากนั่งรถหรอสักครั้งในชีวิต) จากเชียงใหม่ถึง กทม.ด้วย นครชัยแอร์แบบดีที่สุดที่มี ถือว่าเป็นความรู้สึกที่ไม่ได้สัมผัสมานับตั้งแต่ไม่ได้ทำงานเทศบาลแบบที่ได้อยู่บนรถแบบเต็มที่ ตอนมาพอช.ก็มาแบบรถเหมือนกันครับ แต่รู้สึกว่าไม่ได้บรรยากาศเท่าไหร่เพราะนั่งแบบเกรงใจ แต่คราวนี้นั่งเดี่ยวไม่เกรงใจใคร เสียอย่างเดียวคือรถ ยังไงก็คือรถ นั่งจนตูดชากันไปเป็นข้างๆคนแขนขายาวก็เก้งก้างเป็นพิเศษพิเศษ
จากรถผมลงต่อไปที่ BTS(หมอชิต) ไม่รู้ทำไมพอบอกผมจะไปต่อ BTS นางฟ้าบนทางเรียบมีอมยิ้ม อื่มผมคงพูดอะไรผิดแน่ๆ แต่เนื่องด้วย GPS แบตหมด(ทุกทีเลย) จึงตัดสินในขึ้นรถเมย์แดง ลงหมอชิต BTS จ่ายไป 6.50 บาท ไม่รู้หน้าเรามีไรติด พอลงรถทัวร์มาก็โดนพาไปนั่งเท็คซี่ พาไปมอไซ ไปใกล้ๆ จะเก็บเรา 60 บาท แพงไปม้าง ทำยังกะฉานไม่เคยมานิ กทม.
จาก BTS ลง พญาไท เดินต่ออีกนิดเสาะหากแยกอุรุพงษ์ พื้นที่การเมืองที่เคยเดินผ่านตอนาประชุมเมื่อปีที่แล้ว ได้เจอโรงเรียนชื่อดูบ้านๆ แต่อินเตอร์มากมาย แถมมีผลงานซะด้วยฮั่นแน่ ค้นพบอยู่อย่างหนึ่งรับระหว่างการเดินทางคือ ชีวิตในเมืองนอกจากจะแข่งขันแล้ว ยงไม่ค่อยมีใครรู้ทางด้วย นี่เองที่น่าจะเรียกว่า "ป่าคอนกรีต" ป่าทึบเสียด้วย พอเดินทางถึงโรงแรมอาบน้ำเปลี่ยนชุดก็ดูดี ดูได้บ้างครับ
จาก BTS ลง พญาไท เดินต่ออีกนิดเสาะหากแยกอุรุพงษ์ พื้นที่การเมืองที่เคยเดินผ่านตอนาประชุมเมื่อปีที่แล้ว ได้เจอโรงเรียนชื่อดูบ้านๆ แต่อินเตอร์มากมาย แถมมีผลงานซะด้วยฮั่นแน่ ค้นพบอยู่อย่างหนึ่งรับระหว่างการเดินทางคือ ชีวิตในเมืองนอกจากจะแข่งขันแล้ว ยงไม่ค่อยมีใครรู้ทางด้วย นี่เองที่น่าจะเรียกว่า "ป่าคอนกรีต" ป่าทึบเสียด้วย พอเดินทางถึงโรงแรมอาบน้ำเปลี่ยนชุดก็ดูดี ดูได้บ้างครับ
จากนั้นจึงร่วมฟังบรรยาย แลกเปลี่ยนความคิดเสนอประเด็นสู่การพัฒนาและแน่นอนว่าต้องนำเรื่องดีๆ กลับมาเพื่อให้ขบคิดกันต่อในจังหวัด และคราวนี้ผมคิดว่าจะใช้กลไกทางเอกสารเต็มแบบเนื่องจากที่ผ่านมาผมเองวาง position ตัวเองไว้น้อยไป ทำให้งานไม่เป็นระบบ
จากได้โชคดีมากครับที่ได้พบกับศิลปินใหญ่ คุณอินสนธิ์ วงศ์สาย ศิลปินที่เริ่มจากวาดรูปทุกวัน จนเก่ง และศึกษาจนได้ดี แต่การเรียนก็เป็นเพียงประตูที่นำไปสู่การเดินทางค้นหาชีวิตในโลกกว้างและสร้างงานที่ทั่วโลกยอมรับ เพื่อนๆที่อยู่ในกทม. เชิญชวนไปดูงานของคนลำพูนนะครับ ที่ หอศิลปะสมัยใหม่ กทม. แถวสยามดิสครับ
จากนั้นก็มาเจอกมวลมหาประชาติ่งเกาหลี ที่รออยู่แถวสยาม เหมือนจะรอดูอะไรบางอย่างที่พวกเธอคลั่งกันได้ง่ายๆ งานนี้สาวๆเพียบครับ เห่อๆๆ แต่ด้วยเวลามีน้อย จึงรีบตรงดิ่งไป แอร์พอตลิ้ง พึ่งรู้ว่าเป็นของการรถไฟ พอเห็นตาก็รู้สึกไม่มั่นใจ เห่อ ๆ ๆ บอกไม่ถูกเหมือนกัน พอขึ้นไปก็เป็นเช่นนั้นครับ ไม่รู้สึกถึงความทันสมัย ปลอดภัย และคำว่าสะดวก อาจเป็นเพราะผมเองตาไม่ถึงหนะครับ ต้องขออภัยด้วยแต่ก็เชื่อว่าอนาคตคงมีการปรับโฉมและทำการไรให้คนไทยนะครับ สำหรับเรื่องเวลาถือว่าตรงดี ไม่เสีย ไม่สาย ติดที่ห้องโดยสารอาจแคบไปหากนับสำหรับ คนทั่วไปที่เขาจะเดินทางร่วมด้วย
ยามดึกเข้าเช็คอินสุวรรณภูมิ เตรียมเข้าสู่โหมดการเดินทางกลับ ทำแบบสอบถามเรื่องจุดแข็ง ซึ่งขากลับจะอ่านและวิเคราะห์ตัวเองให้ละเอียดมากมากขึ้น และก็นั่งเขียนสรุปทริปให้เพื่อนทราบไปด้วย ถือเป็นการประมวลความทรงจำที่ดีๆที่เกิดขึ้น ถือเป็นการพัฒนาตนเองในทางหนึ่ง ทางความคิด และทางการเดินทางที่ท้าทายตัวเอง เพื่อนๆหลายท่านอาจรู้สึกว่าผมมีเงินถุงเงินถัง หรือชอบทำตัวเว่นเวอ ไม่ติดดิน แต่ผมเองถือว่าเมื่อผมมีโอกาส ผมใช้โอกาสนั้นเพื่อสร้างการเรียนรู้ สร้างประสบการณ์ให้มากที่สุดเท่าที่โอกาสหนึ่งในชีวิตจะมี เพราะผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโอกาสเหล่านี้จะเกิดซ้ำอีกหรือไม่
เอาหละ กลับก่อนนะครับ สุวรรณภูมิ (นฤเทพ พรหมเทศน์ : ห้องรับรองบางกอกแอร์)
14 กันยายน 2557
วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2557
ข่าวสารพลังลำพูน ต้นเดือนกันยายน
สวัสดีครับท่านผู้ฟังที่เคารพและมิตรสหายทางสุขภาพทุกท่าน พบกับผม นฤเทพ พรหมเทศน์ นักข่าวสุขภาวะจากลำพูนครับ ห่างหายเป็นระยะๆสำหรับข่าวสารพลังจากลำพูนนะครับ มีหลายเรื่องที่ติดขัดเล็กน้อยแต่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการปรับแก้ไขอยู่นะครับ ซึ่งนั่นคือปัญหาของ User error เพราะรายการข่าวสารพลังนอกจากจะบันทึกเสียงแล้ว การจัดพิมพ์เนื้อหาก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญมาก ซึ่งผมเองก็ต้องปรับตัวและจัดการกับเวลาเพื่อให้ได้เนื้อหาของข่าวสาร และได้รายละเอียดของบทความประกอบกันทำให้ช่วงที่ผ่านมาหนึ่งเสร็จ อย่างหนึ่งขาดและนำมาสู่การห่างหายไป แต่นับจากนี้(อีกแล้ว) ก็จะกลับมาสำหรับข่าวสารพลังลำพูน และจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องแน่นอน คอยติดตามนะครับ
สำหรับเดือนกันยายนสมัชชาสุขภาพจังหวัดลำพูน จัดการประชุมสมัชชาสุขภาพครั้งที่ ๑ ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๑ กันยายน ๒๕๕๗ ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เทศบาลเมืองลำพูน เชิงสะพานท่าขาม โดยวาระสำคัญของการจัดสมัชชาสุขภาพครั้งนี้มุ่งเน้นเรื่องความมั่นคงทางอาหารเป็นหลักใหญ่ในการบริหารความรู้และข้อพิจารณามติครับ โดยมติปีนี้ประกอบด้วย ร่างมติที่ ๑ ความมั่นคงทางอาหารเพื่อสุขภาวะของคนหละปูน ร่างมติที่ ๒ การขับเคลื่อนน้ำมันทอดซ้ำโดยคนหละปูน และร่างมติที่ ๓ พืชผักปลอดภัยสร้างความมั่นใจสู่ผู้บริโภค โดยที่มาของมติทั้ง ๓ นั้นเกิดจากการพัฒนาข้อประเด็นจากกลุ่มเครือข่าย ข้อมูลต้นทุนทางสังคม และพัฒนาการของจังหวัดลำพูนที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งในเบื้องต้นคณะทำงานเครือข่ายลงสำรวจกลุ่มเครือข่าย รับฟังความคิดเห็นเพื่อเสนอประเด็นสู่ คณะทำงานวิชาการโดยสรุปทุนทางสังคมลำพูน ๔ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มงานบุญปลอดเหล้า กลุ่มออมทรัพย์สวัสดิการ กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กลุ่มผลิตพืชผักอาหารปลอดภัย โดยทั้ง ๔ กลุ่มต่างมีจุดแข็ง จุดร่วม จุดต่างที่หลากหลายและน่าสนใจทั้งสิ้น แต่เนื่องด้วยคณะทำงานจัดสมัชชาสุขภาพจังหวัดลำพูน ปีนี้เริ่มต้นในปีแรกจึงต้องการมุ่งเป้าหมายที่ประเด็นที่มีพื้นที่รูปธรรม มีกิจกรรม และเป็นข้อมติที่สามารถนำไปสู่การขับเคลื่อนได้จริง ไม่เป็นมติที่ไกลตัว จึงเลือก "กลุ่มผลิตพืชผักอาหารปลอดภัย" และ ยกระดับข้อมูลทางวิชาการสู่ "วาระ ความมั่นคงทางอาหารเพื่อสุขภาวะของคนหละปูน" โดยทั้ง ๓ ข้อมติล้วนแต่เป็นข้อมูลและแนวคิดร่วมกันเพื่อจะขับเคลื่อนการบริหารสุขภาพแบบมีส่วนร่วม ยกระดับงานสู่ระดับนโยบาย ตามเจตนารมณ์ของการจัดการประชุมสมัชชาสุขภาพ
โดยข้อมติที่ ๑ ความมั่นคงทางอาหารเพื่อสุขภาวะของคนหละปูน ได้มีทีมวิชาการจากสถาบันวิจัยหริภุญชัยเป็นเจ้าภาพประเด็น ส่วน มติที่ ๒-๓ เป็นการยกแผนงานของสำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดลำพูน ที่ทำร่วมกับองค์กรภาคี ยกระดับสู่การเป็น "นโยบายสาธารณะ" เพื่อทำให้เกิดความต่อเนื่อง และเกิดผลที่ดีในอนาคตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้กระบวนการจัดทำนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมจากเครือข่ายภาคประชาชน ภาครัฐ ภาควิชาการ เป็นการจัดการแบบเครือข่ายที่ร้อยกันเป็นพลังเพื่ออภิบาลระบบ และนำไปสู่สังคมที่มีการสร้างการมีส่วนร่วม สร้างการเป็นเจ้าของ ภายในจังหวัดลำพูน ได้มากน้อยเพียงใด คงต้องอาศัยกระบวนการทางสังคม และระยะเวลาที่จะต้องพิสูจน์จิตใจคนในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง
ซึ่งหากมีความเคลื่อนไหวใดๆ ทีมข่าวสุขภาวะสานใจ สานพลัง ลำพูนจะนำเรื่องราวต่างๆมารายงานเป็นประจำ ทุกสัปดาห์อย่างสม่ำเสมอ และชวนท่านผู้ฟัง ผู้อ่านติดตามอย่างต่อเนื่องนะครับ
สำหรับเดือนกันยายนสมัชชาสุขภาพจังหวัดลำพูน จัดการประชุมสมัชชาสุขภาพครั้งที่ ๑ ระหว่างวันที่ ๑๐-๑๑ กันยายน ๒๕๕๗ ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เทศบาลเมืองลำพูน เชิงสะพานท่าขาม โดยวาระสำคัญของการจัดสมัชชาสุขภาพครั้งนี้มุ่งเน้นเรื่องความมั่นคงทางอาหารเป็นหลักใหญ่ในการบริหารความรู้และข้อพิจารณามติครับ โดยมติปีนี้ประกอบด้วย ร่างมติที่ ๑ ความมั่นคงทางอาหารเพื่อสุขภาวะของคนหละปูน ร่างมติที่ ๒ การขับเคลื่อนน้ำมันทอดซ้ำโดยคนหละปูน และร่างมติที่ ๓ พืชผักปลอดภัยสร้างความมั่นใจสู่ผู้บริโภค โดยที่มาของมติทั้ง ๓ นั้นเกิดจากการพัฒนาข้อประเด็นจากกลุ่มเครือข่าย ข้อมูลต้นทุนทางสังคม และพัฒนาการของจังหวัดลำพูนที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง
ซึ่งในเบื้องต้นคณะทำงานเครือข่ายลงสำรวจกลุ่มเครือข่าย รับฟังความคิดเห็นเพื่อเสนอประเด็นสู่ คณะทำงานวิชาการโดยสรุปทุนทางสังคมลำพูน ๔ กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มงานบุญปลอดเหล้า กลุ่มออมทรัพย์สวัสดิการ กลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กลุ่มผลิตพืชผักอาหารปลอดภัย โดยทั้ง ๔ กลุ่มต่างมีจุดแข็ง จุดร่วม จุดต่างที่หลากหลายและน่าสนใจทั้งสิ้น แต่เนื่องด้วยคณะทำงานจัดสมัชชาสุขภาพจังหวัดลำพูน ปีนี้เริ่มต้นในปีแรกจึงต้องการมุ่งเป้าหมายที่ประเด็นที่มีพื้นที่รูปธรรม มีกิจกรรม และเป็นข้อมติที่สามารถนำไปสู่การขับเคลื่อนได้จริง ไม่เป็นมติที่ไกลตัว จึงเลือก "กลุ่มผลิตพืชผักอาหารปลอดภัย" และ ยกระดับข้อมูลทางวิชาการสู่ "วาระ ความมั่นคงทางอาหารเพื่อสุขภาวะของคนหละปูน" โดยทั้ง ๓ ข้อมติล้วนแต่เป็นข้อมูลและแนวคิดร่วมกันเพื่อจะขับเคลื่อนการบริหารสุขภาพแบบมีส่วนร่วม ยกระดับงานสู่ระดับนโยบาย ตามเจตนารมณ์ของการจัดการประชุมสมัชชาสุขภาพ
โดยข้อมติที่ ๑ ความมั่นคงทางอาหารเพื่อสุขภาวะของคนหละปูน ได้มีทีมวิชาการจากสถาบันวิจัยหริภุญชัยเป็นเจ้าภาพประเด็น ส่วน มติที่ ๒-๓ เป็นการยกแผนงานของสำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดลำพูน ที่ทำร่วมกับองค์กรภาคี ยกระดับสู่การเป็น "นโยบายสาธารณะ" เพื่อทำให้เกิดความต่อเนื่อง และเกิดผลที่ดีในอนาคตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้กระบวนการจัดทำนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วมจากเครือข่ายภาคประชาชน ภาครัฐ ภาควิชาการ เป็นการจัดการแบบเครือข่ายที่ร้อยกันเป็นพลังเพื่ออภิบาลระบบ และนำไปสู่สังคมที่มีการสร้างการมีส่วนร่วม สร้างการเป็นเจ้าของ ภายในจังหวัดลำพูน ได้มากน้อยเพียงใด คงต้องอาศัยกระบวนการทางสังคม และระยะเวลาที่จะต้องพิสูจน์จิตใจคนในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง
ซึ่งหากมีความเคลื่อนไหวใดๆ ทีมข่าวสุขภาวะสานใจ สานพลัง ลำพูนจะนำเรื่องราวต่างๆมารายงานเป็นประจำ ทุกสัปดาห์อย่างสม่ำเสมอ และชวนท่านผู้ฟัง ผู้อ่านติดตามอย่างต่อเนื่องนะครับ
เทศบาลอุโมงค์.....ท้องถิ่นสร้างพลเมือง
วันก่อนนั้น(5 กย 57) ผมได้รับเกียรติจากเทศบาลอุโมงค์ร่วมต้อนรับคณะตรวจประเมินจากสถาบันพระปก เกล้าในประเด็นการสร้างการมีส่วนร่วมในชุมชน ซึ่ง เทศบาลอุโมงค์ ได้นำเสนอชิ้นงานเด่น ๓ ชิ้นได้แก่ ๑)โครงการแผนชุมชน ๒)โครงการอาสาปันสุข ๓)โครงการโรงเรียนดอกซอมพอ โดยแต่ละโครงการก็มีจุดดีและจุดเด่นที่เน้นกระบวนการมีส่วนร่วม ซึ่งผมเชื่อว่าหากใครได้มาก็มักมีการตั้งคำถาม ซึ่งทำให้เราได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองต่อไป ทางเทศบาลได้รับเกียรติจาก อ.จ๋า จากคณะสังคมสงเคราะห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์ลำปาง) และคณะเป็นผู้เข้าประเมิน
ในวันนั้นครับผมมีภาระกิจหลายด้านวิ่งวุ่นยังกะนินจาก เข้าเมือง ออกเมือง ไปประชุม ไปสอนเด็ก และกลับมาประชุม พอดีว่าการประชุมยังไม่เลิก ผมเลยได้เรียนรู้และรับฟังสิ่งดีๆที่ผู้ประเมินตั้งข้อคำถามที่คิดว่าผมเอง ก็อยากทราบอยากตีความเช่นกัน จึงขอถือโอกาสนำเสนอมุมมองความคิดลงในพื้นที่แห่งนี้
ว่ากันแล้วคำถามสำคัญที่น่าจะเป็นข้อคิดที่สุดคือ "เทศบาลอุโมงค์ทำอย่างไรให้คนเกิดความตระหนัก และมีส่วนร่วม" นี่เองเมื่อฟังแล้วก็รู้สึกขบคิดขึ้นมาทันควัน สาเหตุหนึ่งน่าจะเกิดจาก เราเองหลงลืมไปแล้วว่าทำไมเราจึงออกมาร่วมงานกับเทศบาล มาเรียนรู้ มามีส่วนร่วม และบางครั้งก็ทำตัวเสมือนเป็นเจ้าของ อาจเพราะคำสอนที่ฟังหัวเราแต่เริ่มต้นทำงาน ที่ท่านนายกพูดเสมอใน ๓ คำคือ "ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ปัญหา" ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในสมัยที่ท้องถิ่นในลำพูน ยังมีอยู่ไม่กี่แห่ง และเห็นท้องถิ่นแรกๆ ที่ให้โอกาสประชาชนได้เป็นเจ้าของได้มากที่สุด
แต่กระบวนการเป็นเจ้าของ หรือกระบวนการมีส่วนร่วมเป็นเพียงปลายหรือผลลัพภ์ที่เกิดขึ้น ผมเองได้มีโอกาสได้เรียนกับอาจารย์ท่านหนึ่งครับ ในรายวิชาจริยธรรมทางธุรกิจ ผศ.ประกาย นิมมานเหมินทร์ ซึ่งท่านให้ข้อคิดที่บังเอิญตรงใจและน่าจะเป็นคำตอบในโจทย์ของกระบวนการ สร้างความเข้มแข็งขององค์กร หรือการมีส่วมนั่นคือ การสร้าง "จริยธรรมองค์กร" หรือ การสร้าง "คุณลักษณะของคนอุโมงค์" ซึ่งผมคิดว่าหากมองในทางสังคมศาสตร์น่าจะตอบคำถามข้อนี้ได้
เนื่องด้วยมนุษย์เป็นสัตว์สังคม การอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมากๆ ต้องมีการออกแบบข้อตกลง กติกา กฎหมาย แต่สำคัญที่สุดทุกคนควรมีแนวทางปฏิบัติ หรือ อาจกล่าวว่าเป็นคุณลักษณะที่พึงประสงค์ก็ว่าได้ คุณลักษณะเด่นของคนอุโมงค์ คือการมีความใกล้ชิด กล้าพูดกล้าคุยกับเทศบาล ทางหนึ่งอาจเกิดจากโอกาสนที่เทศบาลพยายามสร้างและทำให้ลดช่องว่าระหว่างคำ ว่า รัฐ และ ประชาชน เมื่อใจเปิด เจอบ่อย คุยง่าย ก็นำไปสู่การเชื่อมประสานความคิด กำหนดทิศทางเพื่อก้าวเดินอย่างไรร่วมกัน
ตำบลอุโมงค์จึงเป็นพื้นที่หนึ่งในการสร้างคน ที่คุณลักษณะในทางการมีส่วนร่วม การเป็นเจ้าของร่วมกัน และนำไปสู่ความเข้มเข็งที่เราเห็น และเป็นเสมือนต้นทุนทางสังคม เป็นจริยธรรม หรือจริยวัต ที่เราทำอยู่อย่างเสมอจนนึกไม่ออกเหมือนกันว่าเพราะอะไรเราจึงต้องทำ
ท้ายที่สุดกระบวนการเหล่านี้ยังคงต้องพัฒนาต่อไป อย่างไม่ให้เสียเปล่าในฐานทุนของตำบลอุโมงค์ที่อยู่ แต่ประเด็นสำคัญสำหรับการพูดคุยในกรรมการตรวจประเมินยังไม่หมด ผมเองคิดว่าเหลืออีกประเด็นหนึ่งที่ไม่ใช่คำถาม นั่นคือการชวนกำหนดทิศทางใหม่ (ต่อยอด) ซึ่งคงต้องอาศัยโอกาสหน้า นำเสนอต่อไป ขอบพระคุณทุกท่านที่ให้เกียรติอ่านบทความนี้.
ในวันนั้นครับผมมีภาระกิจหลายด้านวิ่งวุ่นยังกะนินจาก เข้าเมือง ออกเมือง ไปประชุม ไปสอนเด็ก และกลับมาประชุม พอดีว่าการประชุมยังไม่เลิก ผมเลยได้เรียนรู้และรับฟังสิ่งดีๆที่ผู้ประเมินตั้งข้อคำถามที่คิดว่าผมเอง ก็อยากทราบอยากตีความเช่นกัน จึงขอถือโอกาสนำเสนอมุมมองความคิดลงในพื้นที่แห่งนี้
ว่ากันแล้วคำถามสำคัญที่น่าจะเป็นข้อคิดที่สุดคือ "เทศบาลอุโมงค์ทำอย่างไรให้คนเกิดความตระหนัก และมีส่วนร่วม" นี่เองเมื่อฟังแล้วก็รู้สึกขบคิดขึ้นมาทันควัน สาเหตุหนึ่งน่าจะเกิดจาก เราเองหลงลืมไปแล้วว่าทำไมเราจึงออกมาร่วมงานกับเทศบาล มาเรียนรู้ มามีส่วนร่วม และบางครั้งก็ทำตัวเสมือนเป็นเจ้าของ อาจเพราะคำสอนที่ฟังหัวเราแต่เริ่มต้นทำงาน ที่ท่านนายกพูดเสมอใน ๓ คำคือ "ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ปัญหา" ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในสมัยที่ท้องถิ่นในลำพูน ยังมีอยู่ไม่กี่แห่ง และเห็นท้องถิ่นแรกๆ ที่ให้โอกาสประชาชนได้เป็นเจ้าของได้มากที่สุด
แต่กระบวนการเป็นเจ้าของ หรือกระบวนการมีส่วนร่วมเป็นเพียงปลายหรือผลลัพภ์ที่เกิดขึ้น ผมเองได้มีโอกาสได้เรียนกับอาจารย์ท่านหนึ่งครับ ในรายวิชาจริยธรรมทางธุรกิจ ผศ.ประกาย นิมมานเหมินทร์ ซึ่งท่านให้ข้อคิดที่บังเอิญตรงใจและน่าจะเป็นคำตอบในโจทย์ของกระบวนการ สร้างความเข้มแข็งขององค์กร หรือการมีส่วมนั่นคือ การสร้าง "จริยธรรมองค์กร" หรือ การสร้าง "คุณลักษณะของคนอุโมงค์" ซึ่งผมคิดว่าหากมองในทางสังคมศาสตร์น่าจะตอบคำถามข้อนี้ได้
เนื่องด้วยมนุษย์เป็นสัตว์สังคม การอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมากๆ ต้องมีการออกแบบข้อตกลง กติกา กฎหมาย แต่สำคัญที่สุดทุกคนควรมีแนวทางปฏิบัติ หรือ อาจกล่าวว่าเป็นคุณลักษณะที่พึงประสงค์ก็ว่าได้ คุณลักษณะเด่นของคนอุโมงค์ คือการมีความใกล้ชิด กล้าพูดกล้าคุยกับเทศบาล ทางหนึ่งอาจเกิดจากโอกาสนที่เทศบาลพยายามสร้างและทำให้ลดช่องว่าระหว่างคำ ว่า รัฐ และ ประชาชน เมื่อใจเปิด เจอบ่อย คุยง่าย ก็นำไปสู่การเชื่อมประสานความคิด กำหนดทิศทางเพื่อก้าวเดินอย่างไรร่วมกัน
ตำบลอุโมงค์จึงเป็นพื้นที่หนึ่งในการสร้างคน ที่คุณลักษณะในทางการมีส่วนร่วม การเป็นเจ้าของร่วมกัน และนำไปสู่ความเข้มเข็งที่เราเห็น และเป็นเสมือนต้นทุนทางสังคม เป็นจริยธรรม หรือจริยวัต ที่เราทำอยู่อย่างเสมอจนนึกไม่ออกเหมือนกันว่าเพราะอะไรเราจึงต้องทำ
ท้ายที่สุดกระบวนการเหล่านี้ยังคงต้องพัฒนาต่อไป อย่างไม่ให้เสียเปล่าในฐานทุนของตำบลอุโมงค์ที่อยู่ แต่ประเด็นสำคัญสำหรับการพูดคุยในกรรมการตรวจประเมินยังไม่หมด ผมเองคิดว่าเหลืออีกประเด็นหนึ่งที่ไม่ใช่คำถาม นั่นคือการชวนกำหนดทิศทางใหม่ (ต่อยอด) ซึ่งคงต้องอาศัยโอกาสหน้า นำเสนอต่อไป ขอบพระคุณทุกท่านที่ให้เกียรติอ่านบทความนี้.
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)
ก็ยังดี
#ก้าวร้อยก้าว ก็ยังดี ช่วงนี้ ก็มีเรื่องหนึ่งในชีวิตที่ว้าวุ่น ตามประสาก็คือเรื่องลูกชาย ช่วงนี้ของชีวิตเขา มีกีฬาสี ที่แต่ละปีก็จะมีเรื่อ...
-
เสมือนโซ่ข้อกลางที่คล้องระหว่าง กิจกรรมชุมชน และกิจกรรมแห่งรัฐ ที่อดีตถูกผูกโยงกับคนไม่กี่กลุ่ม จนปัจจุบันขยายวงกว้างสู่ประชาชนมากขึ้น เพียง...
-
ความมั่นคงทางอาหารบนฐานความพอเพียง รู้จริง ทำจริง เข้าใจจริง เป็นคำพูดที่ก้องสะท้อนในใจเสมอ สำหรับการทำงานด้านความมั่นคงทางอาหาร ใช่เพียง...
-
ภาพที่ถ่ายเก็บไว้ช่วงการเดินทางอบรม นนส.หลักสูตรนักสานพลังพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ นอกจากจะได้เจอเพื่อนใหม่ สานสัมพันธ์เพื่...