วันก่อนนั้น(5 กย 57) ผมได้รับเกียรติจากเทศบาลอุโมงค์ร่วมต้อนรับคณะตรวจประเมินจากสถาบันพระปก เกล้าในประเด็นการสร้างการมีส่วนร่วมในชุมชน ซึ่ง เทศบาลอุโมงค์ ได้นำเสนอชิ้นงานเด่น ๓ ชิ้นได้แก่ ๑)โครงการแผนชุมชน ๒)โครงการอาสาปันสุข ๓)โครงการโรงเรียนดอกซอมพอ โดยแต่ละโครงการก็มีจุดดีและจุดเด่นที่เน้นกระบวนการมีส่วนร่วม ซึ่งผมเชื่อว่าหากใครได้มาก็มักมีการตั้งคำถาม ซึ่งทำให้เราได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองต่อไป ทางเทศบาลได้รับเกียรติจาก อ.จ๋า จากคณะสังคมสงเคราะห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์ลำปาง) และคณะเป็นผู้เข้าประเมิน
ในวันนั้นครับผมมีภาระกิจหลายด้านวิ่งวุ่นยังกะนินจาก เข้าเมือง ออกเมือง ไปประชุม ไปสอนเด็ก และกลับมาประชุม พอดีว่าการประชุมยังไม่เลิก ผมเลยได้เรียนรู้และรับฟังสิ่งดีๆที่ผู้ประเมินตั้งข้อคำถามที่คิดว่าผมเอง ก็อยากทราบอยากตีความเช่นกัน จึงขอถือโอกาสนำเสนอมุมมองความคิดลงในพื้นที่แห่งนี้
ว่ากันแล้วคำถามสำคัญที่น่าจะเป็นข้อคิดที่สุดคือ "เทศบาลอุโมงค์ทำอย่างไรให้คนเกิดความตระหนัก และมีส่วนร่วม" นี่เองเมื่อฟังแล้วก็รู้สึกขบคิดขึ้นมาทันควัน สาเหตุหนึ่งน่าจะเกิดจาก เราเองหลงลืมไปแล้วว่าทำไมเราจึงออกมาร่วมงานกับเทศบาล มาเรียนรู้ มามีส่วนร่วม และบางครั้งก็ทำตัวเสมือนเป็นเจ้าของ อาจเพราะคำสอนที่ฟังหัวเราแต่เริ่มต้นทำงาน ที่ท่านนายกพูดเสมอใน ๓ คำคือ "ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ปัญหา" ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในสมัยที่ท้องถิ่นในลำพูน ยังมีอยู่ไม่กี่แห่ง และเห็นท้องถิ่นแรกๆ ที่ให้โอกาสประชาชนได้เป็นเจ้าของได้มากที่สุด
แต่กระบวนการเป็นเจ้าของ หรือกระบวนการมีส่วนร่วมเป็นเพียงปลายหรือผลลัพภ์ที่เกิดขึ้น ผมเองได้มีโอกาสได้เรียนกับอาจารย์ท่านหนึ่งครับ ในรายวิชาจริยธรรมทางธุรกิจ ผศ.ประกาย นิมมานเหมินทร์ ซึ่งท่านให้ข้อคิดที่บังเอิญตรงใจและน่าจะเป็นคำตอบในโจทย์ของกระบวนการ สร้างความเข้มแข็งขององค์กร หรือการมีส่วมนั่นคือ การสร้าง "จริยธรรมองค์กร" หรือ การสร้าง "คุณลักษณะของคนอุโมงค์" ซึ่งผมคิดว่าหากมองในทางสังคมศาสตร์น่าจะตอบคำถามข้อนี้ได้
เนื่องด้วยมนุษย์เป็นสัตว์สังคม การอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมากๆ ต้องมีการออกแบบข้อตกลง กติกา กฎหมาย แต่สำคัญที่สุดทุกคนควรมีแนวทางปฏิบัติ หรือ อาจกล่าวว่าเป็นคุณลักษณะที่พึงประสงค์ก็ว่าได้ คุณลักษณะเด่นของคนอุโมงค์ คือการมีความใกล้ชิด กล้าพูดกล้าคุยกับเทศบาล ทางหนึ่งอาจเกิดจากโอกาสนที่เทศบาลพยายามสร้างและทำให้ลดช่องว่าระหว่างคำ ว่า รัฐ และ ประชาชน เมื่อใจเปิด เจอบ่อย คุยง่าย ก็นำไปสู่การเชื่อมประสานความคิด กำหนดทิศทางเพื่อก้าวเดินอย่างไรร่วมกัน
ตำบลอุโมงค์จึงเป็นพื้นที่หนึ่งในการสร้างคน ที่คุณลักษณะในทางการมีส่วนร่วม การเป็นเจ้าของร่วมกัน และนำไปสู่ความเข้มเข็งที่เราเห็น และเป็นเสมือนต้นทุนทางสังคม เป็นจริยธรรม หรือจริยวัต ที่เราทำอยู่อย่างเสมอจนนึกไม่ออกเหมือนกันว่าเพราะอะไรเราจึงต้องทำ
ท้ายที่สุดกระบวนการเหล่านี้ยังคงต้องพัฒนาต่อไป อย่างไม่ให้เสียเปล่าในฐานทุนของตำบลอุโมงค์ที่อยู่ แต่ประเด็นสำคัญสำหรับการพูดคุยในกรรมการตรวจประเมินยังไม่หมด ผมเองคิดว่าเหลืออีกประเด็นหนึ่งที่ไม่ใช่คำถาม นั่นคือการชวนกำหนดทิศทางใหม่ (ต่อยอด) ซึ่งคงต้องอาศัยโอกาสหน้า นำเสนอต่อไป ขอบพระคุณทุกท่านที่ให้เกียรติอ่านบทความนี้.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ก็ยังดี
#ก้าวร้อยก้าว ก็ยังดี ช่วงนี้ ก็มีเรื่องหนึ่งในชีวิตที่ว้าวุ่น ตามประสาก็คือเรื่องลูกชาย ช่วงนี้ของชีวิตเขา มีกีฬาสี ที่แต่ละปีก็จะมีเรื่อ...
-
เสมือนโซ่ข้อกลางที่คล้องระหว่าง กิจกรรมชุมชน และกิจกรรมแห่งรัฐ ที่อดีตถูกผูกโยงกับคนไม่กี่กลุ่ม จนปัจจุบันขยายวงกว้างสู่ประชาชนมากขึ้น เพียง...
-
ความมั่นคงทางอาหารบนฐานความพอเพียง รู้จริง ทำจริง เข้าใจจริง เป็นคำพูดที่ก้องสะท้อนในใจเสมอ สำหรับการทำงานด้านความมั่นคงทางอาหาร ใช่เพียง...
-
ภาพที่ถ่ายเก็บไว้ช่วงการเดินทางอบรม นนส.หลักสูตรนักสานพลังพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ นอกจากจะได้เจอเพื่อนใหม่ สานสัมพันธ์เพื่...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น