ท่ามกลางดงความคิดเห็นที่แตกต่าง ท่ามกลางความแตกแยกของชาติที่นับวันเริ่มซึมลึก รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่ชนะในประชาชนเกิน 50% ของผู้ออกมาใช้สิทธิอ้างความชอบธรรมของประชาธิปไตย ประชาชนเลือกคนที่รักคนที่เห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อท้องถิ่น จังหวัดเข้าไปทำหน้าที่แต่กลับถูกปิดปากและล้างสมองให้ทำหน้าที่เป็นฐานของพรรคการเมือง ฝ่ายค้านไร้ซึ่งศักยภาพในการต่อสู้เชิงเหตุผล และด้วยปัญญา นำมาซึ่งการล้มล้างสิ่งที่ไม่มีตัวตน และการหาวิถีทางการแก้ไขปัญหาแบบวิธีพิเศษซึ่งคนไทยก็มักใช้วิธีพิเศษ
แม้จะมองว่านี่คือความงดงามแบบไทยๆ ความยืดหยุ่นแบบไทยๆ ซึ่งชาติใดก็ไม่อาจกระทำได้ระหว่างสงครามคนไทยกลับมีการพักยก กอดคอกันจับมือกันและรักกันแบบพลิบตาทำเอาชาวต่างชาติเงิบกันเป็นแถว แต่พอเสียงระฆังดังขึ้นกลับตั้งการ์ดแล้วย้ำเท้าเข้าหากัน ราวกับนักมวยมุมแดงมุมน้ำเงิน เมื่อสู้กันด้วยคะแนนไม่ไหวก็กลับบอกว่ามวยแพ้คนไม่แพ้ ไม่ชนะคะแนนแต่ชนะใจ ไม่แพ้แบบค้านสายตา
หากเปรียบเทียบกับชาติอื่นๆในสังคมโลกสหรัฐเป็นประเทศหนึ่งที่ผมประทับใจ ไม่ใช่เพราะความยิ่งใหญ่ใดๆ หรือความเป็นมหาอำนาจ แต่เป็นการเคารพซึ่งกติกา การยึดถือหลักที่บัญญัติไว้จากคนรุ่นแรกเริ่มชาติ และก็ไม่เคยฉีกทำลายเลย กติกาซึ่งมีไม่กี่ข้อแต่ก็ค้ำจุนชาติและคนยึดถือปฏิบัติกันสืบต่อมาจนเป็นความน่านับถือ เลื่อมใส สมเป็นผู้นำของโลก
แม้สภาวะการปัจจุบันการเลือกตั้งจะถูกวางเอาไว้กติกาทางสังคมปกติมีการกำหนดไว้ แต่อำนาจที่พยายามสร้างอิทธิพลเหนืออำนาจกำลังก่อตัวอยู่และพยายามสร้างอำนาจการต่อรองให้มาก และเริ่มมากเกินกว่าคำว่าพอดี และเริ่มอยู่เหนือกติกา จริงอยู่ที่อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนแต่คงไม่ใช่หมายถึงกลุ่มชนแน่นอนดังนั้นเมื่อกติกาเดินหน้าไปแล้วเราเองก็ควรเคารพซึ่งกติกาเพราะนี่คือหลักยึดในการบริหารประเทศ ถามว่าตุลาการตัดสินผิดถูก(ซึ่งรัฐไทยก็รู้กันดีว่ากฎหมายดีความได้หลายหลาก)ก็ยึดตามหลัก รัฐธรรมนูญทีเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นผลพวงของอะไรใครแต่หากเป็นหลักที่ควรยึดก็ต้องเดินทางกรอบแนวทาง
ซึ่งเมื่อถามถึงการเปลี่ยนแปลงในแนวทางที่หลากหลายกลุ่มคิดเห็นเช่น การตั้งนายกคนกลาง การเกิดของสภาประชาชน การปฏิรูปโครงสร้างอำนาจรัฐ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ต้องเดินหน้าอย่างแน่นอนเพียงแต่กลไกเหล่านี้ต้องเกิดขึ้นภายใต้กติกาที่เรามีร่วมกัน พรรคการเมืองทุกพรรคต่อจากนี้ต้องเสนอแนวทางที่เป็นนโยบายเพื่อสร้างชาติ ไม่ใช่เป็นนโยบายขายฝันซึ่งแน่นอนว่าเหมือนโปรโมชั่นที่ทำเพื่อให้ตนเองขายได้แต่สุดท้ายประเทศชาติที่เจ๊ง และเมื่อลุแกอำนาจก็ดื้อดึงเดินหน้าจนทำให้คนออกมาบนท้องถนนเช่นทุกวันนี้
อนาคตของชาติจะไปต่อได้อย่างไรหากเราไม่ยึดหลักใดๆที่เป็นรูปธรรม และจะนิยมอำนาจพิเศษ ซึ่งกลุ่มใดระดมคนได้มากก็ยึดอำนาจพิเศษขึ้นเช่นนั้นหรือ การกลับมาสู่กติกาน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด การเลือกผู้แทนด้วกติกา ด้วยนโยบายสาธารณะคงเป็นเรื่องที่ดีที่สุด เพราะไม่เช่นนั้นประเทศชาติจะเดินหน้าได้อย่างไรหากเราไร้ซึ่งกติกา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น