วันพุธที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เดินตามกติกา เดินหน้าการปฏิรูป


เมื่อวานนี้ผมเขียนบทความสนับสนุนการเลือกตั้ง http://bit.ly/1drnL9g  กระแสดีเกินคาด  ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเพราะป้ายดี หรือเพราะเนื้อหาใช้ได้แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากสื่อสารกับทุกท่านคือแนวคิดที่ต้องยืนอยู่บนหลักการ หลักที่ถูกต้อง แต่เดิมผมเสนอให้มีการยุบสภา เพราะนี่คือทางออกเดียวตาม "กลไก" หลายท่านก็ออกโรงตำหนิว่าเข้าล๊อก เข้าตีนใครต่อใคร รู้ไหมอะไรจะเกิดขึ้น นั้นโน้นนี่ ซึ่งผมเองพักหลังเลิกที่จะวิวาทะทางหน้าจอ เพราะไม่เกิดปัญญาใดๆการต่อหรือการคุยกับปัจเจกบุคคลหากเต็มไปด้วยเหตุผลเชิงวิเคราะห์ก็พอฟังอยู่ แต่หลายท่าน ไม่ว่าจะฝั่งใดก็ตามต่างใช้ฐานความรักมาเป็นเหตุผลจึงทำให้การสนทนานั้นหากผมยอมจบก็เท่ากับว่าเหตุผลที่ผมเสนอมาต้องแพ้ต่อความไร้เหตุไร้ผล แต่หากจะเอาชนะอีกฝ่ายทั้งจะเสียน้ำใจและทำให้ไม่ได้อะไรเช่นกัน 

แต่สถานการณ์การเมืองบ้านเราช่วงหลังจากมีการประกาศยุบสภาก็ดูเหมือนมีปฏิกิริยาที่ดีในการคลี่คลายหลายอย่าง แต่เดิมเราทำงานแบบไม่มีเป้าหมาย แต่เมื่อมีเป้าหมายมากำหนดสถานการณ์หรือ "ธง" ที่ชัดเจนทำให้การเคลื่อนเป็นไปอย่างมีจังหวะก้าวที่ต้องเกิดประสิทธิผล เห็นได้จากนักวิชาการ สื่อ กลุ่มการเมือง และผู้ชุมนุมเองก็ต่างเดินหน้าเหมือนปี่มวยที่เร่งเกมส์เร็วสำหรับปิดยกสุดท้าย จากนี้ไปเดือนกว่าๆคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ด้านหนึ่งที่ต้องดำเนินการแน่นอนคือการปฏิรูปประเทศไทย ปฏิรูปโดยไม่ใช่องค์กรของรัฐเป็นองค์การขับเคลื่อนหลัก ต้องเป็นองค์กรประชาชนที่เป็นกลจักรในการขับเคลื่อนทั้งตามกลไกเดิมทีมีอยู่ผ่านการบวนการมีส่วนร่วม และกลไกใหม่ใช่สภาประชาชน สมัชชาปฏิรูป หรือแล้วแต่จะเรียกแต่ไม่ใช่สภาที่มีอำนาจ แต่ต้องเป็นเหมือนสถานที่ทางปัญญาที่ถกแถลงและเสนอต่อรัฐ อาจเพราะปัจจุบันมีการให้ปัญญาเช่นนี้บ่อยครั้งหรือไม่ จึงทำให้กระแสมหานกหวีดเกิดขึ้นได้ นั่นเพราะรัฐให้ปัญญากับคนเหล่านี้มากขึ้น แต่เมื่อให้เขาคิดแต่กลับไม่ฟังพวกเขา จึงต้องเป่านกหวีดให้ได้ยินเสียงกันบ้าง 

ผมเองทำงานปฏิรูปมา 4-5 ปี นับตั้งแต่เข้าวงการทั้งเป็นที่รับรู้ และไม่เป็นที่รับรู้ บางท่านพี่ๆเขาทำกันเป็น 20 กว่าปีทำตั้งแต่หนุ่มยันแก่ และแก่กว่านี้เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จหรือไม่ แต่ด้วยความเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งดีจึงต้องเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง จังหวะทางการเมืองที่มีการยุบสภาก็ถือเป็นโอกาสหนึ่งที่จะเสนออย่างน้อยที่สุดคือการสร้างการตื่นตัวและนำประเด็นปัญหาว่าทำไมต้องปฏิรูปลงสู่สังคม ฝ่าย กปปส. ก็มีแนวคิดที่จะปฏิรูปเป็นแนวคิดที่เป็นเปลือกเท่านั้น การหยิบแค่บางส่วนมาทำเป็นนโยบายก็ยังเป็นแนวคิดแบบเดิมของนักการเมือง นำแนวทางที่ดีมาตัดแต่งพันธุกรรมจนทำให้เสียรูปลักษณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมไป ส่วนการจะปฎิรูปอย่างไรนั้นคิดวันหน้าผมจะเริ่มเดินหน้าขยายความแต่หากใครที่สนใจจริงลองคลิกเข้าไปใช้คำว่าปฏิรูปนี่แหละครับผมว่าจะได้เห็น ได้ศึกษา และคณะหนึ่งที่ทำงานเรื่องนี้อย่างจริงจังก็ต้องยกให้ท่านอาจารย์ประเวศ ซึ่งท่านได้สรุปคำสั้นๆไว้ว่า "ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม" ซึ่งผมว่านี่คือหัวใจสำคัญทางการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยที่ถูกเก็บทางแก้ไขซ่อนไว้ใต้น่าจะกว่าร้อยปีทีเดียว

หลากพรรคการเมืองตอนนี้คงเริ่มเดินหน้าและทำสิ่งหนึ่งที่มากกว่าการจัดทัพเพื่อลงเลือกตั้ง  นั่นคือการชูนโยบายที่เกิดขึ้นจากประชาชน(หากเขาตื่นรู้ และไม่คิดแทนประชาชน) ผมคาราวะหัวใจของคุณสุเทพในเบื้องต้นที่เป็นแม่ทัพนายกองที่จะกอบกู้บ้านเมือง แต่แม่ทัพก็คงเป็นแม่ทัพ ต้องรู้บทบาทของตนตอนนี้ผมว่าแม่ทัพกำลังจะสถาปนาตนเองเข้าสู่การเป็นสถาบันการปกครอง ซึ่งผิดจากวิสัยของตน  นั่นถือเป็นการสร้างทางตันให้แก่ตนเอง สังคมนี้เป็นสังคมแห่งการให้อภัย สังคมคนขี้ลืม ลืมง่าย หากวันนี้ กลุ่มนี้ได้เสนอทางออกหรือสร้างพิมพ์เขียวไว้โดยผ่านกระบวนการทางวิชาการและเสนอให้กลุ่มการเมือง องค์กรกลางเป็นผู้ดำเนินการก็จะเป็นการลงอย่างสง่างาม เพราะประชาชนเดียวนี้ฉลาดขึ้นตื่นรู้ขึ้น ขนาดชาวบ้านร้านตลาดยังสนใจเรื่องของ พรบ.นิรโทษ เพียงแต่การขยิบตาที่จะเข้าพบคนสำคัญ มีคำสั่ง มีการสั่งการ มีการบุกยึก มีการจัดทัพ มีหรือจะไม่รู้ว่านี่คือการปฏิวัติโดยประชาชน เขารู้ครับแค่เขาเคารพและให้เกียรติผู้นำแต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ผมว่าท่านเลยจุดของความพอดีไปแล้ว ควรหาจุดจอดและลงจากตำแหน่งเถิดเพื่อให้ชาติบ้านเมืองได้อยู่รอด 

พัฒนาการของประชาชนมีอยู่อย่างต่อเนื่องผมเห็นจากหน้าเฟสบุ๊คแล้วเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้หากเป็นไปตามกำหนด เราจะเห็นเสียงสะท้อนจากประชาชนหลายอย่าง ทั้งการเลือก การNo Vote และอารยะขัดขืนต่อพรรคที่ตนศรัทธา แดงตื่นรู้ก็มาก สลิ่มเข้าใจก็ไม่น้อย เพราะฉะนั้นในสภาวะที่คนอุดมด้วยปัญญาการครอบงำนั้นควรเลิกคิดได้แล้ว  และให้ความเข้าใจกับประชาชน รับฟังประชาชน และเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง รับแนวทางการปฏิรูปที่มีประชาชนเป็นฐานจะดีกว่าเพื่อให้ชาติบ้านเมืองเดินหน้าได้ 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ก็ยังดี

 #ก้าวร้อยก้าว ก็ยังดี  ช่วงนี้ ก็มีเรื่องหนึ่งในชีวิตที่ว้าวุ่น ตามประสาก็คือเรื่องลูกชาย ช่วงนี้ของชีวิตเขา มีกีฬาสี ที่แต่ละปีก็จะมีเรื่อ...