วันศุกร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2558

บันทึกการเดินทางที่ 30.12 ปิดหนังสือเล่มเดิม เปิดหนังสือเล่มใหม่

บันทึกการเดินทางที่ 30.12 ปิดหนังสือเล่มเดิม เปิดหนังสือเล่มใหม่

.
และแล้วความพยายามเกือบเดือนก็สำเร็จช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ครับ กับหนังสือดี เอนหลังฟัง : ศิลปะการฟังอย่างลึกซึ้ง หนังสือดีที่ได้รับจาก สำนักงานส่งเสริมธุรกิจเพื่อสังคมแห่งชาติ(สกส.) จากการร่วมกิจกรรมหนึ่ง ซึ่งเขียนโดย ภินท์ ภารดาม มีชายสามคนเดินเรื่อง ศรชัย แมนนี่ และเทพกีต้า
.
ผมใช้เวลาอ่านเกือบเดือน ค่อยอ่าน และขีดบางคำ ได้อ่านบางเรื่อง(เสมือนฟังเสียงบทสนทนาบางตอนจากชายหลายคน) บางก็เสมือนมีเสียงอาจารย์ชัย วัฒน์ แว่วมาเป็นระยะเพราะท่านให้คำนิยมไว้ข้างต้น ซึ่งน่าแปลกว่าหลังจากที่ผมอ่านจบทดลองทำ mind map ของหนังสือเล่มนี้ดู เกือบทุกบทความจะเน้นในเรื่องของการใช้ใจเพื่อฟัง ฟังให้สุดเสียง เป็นคำพูดของแม่ป้าหน่อย พูดขึ้นเมื่อเห็นหนังสือเล่มนี้ และยิ่งดีใจซ้ำเข้าไปเมื่อรู้ว่าคนที่อยู่ในเล่มนี้เป็นคนจริงๆที่น่าจะได้ เข้าไปเรียนรู้ ผมจึงเพียงหวังว่าจะได้พูดคุยกับเทพกีต้าจริงๆ
.
ส่งที่น่าประหลาดใจระหว่างการเขียน mind map คือการเขียนคำว่า “ใจ” หลายครั้งเหลือเกินจนผมคิดว่าเพราะผมคิดหรือหนังสือต้องการเล่าเรื่องนี้ เพราะ 15 บทที่สื่อสารออกไปล้วนเป็นการสะท้อนให้เราฟังอย่างตั้งใจ ทั้งใจที่จะไม่คิดรบกวนเรื่องราวของผู้เล่า ทั้งไม่กวนที่จะเอาตัวเองอินเกินไปกับเรื่องราวต่างๆ แต่กลับมามี “สติ” ทุกครั้ง นอกเหนือจากการฟังอย่างลุ่มลึก ผมได้ได้เห็นหลายเรื่องผ่านอักษรทั้งศาสตร์แห่งการเล่น หรือ “พลังเล่น” ที่บางครั้งงานอาศัยความจริงจังไม่ได้ ต้องอาศัยการเล่นเป็นเครื่องมือ และอีกหลายเรื่องที่คงต้องรอเพื่อนสมาชิกหาอ่านเอาเอง(ฮ่า) เปิดเผยหมดก็คงพาเพื่อนๆหมดสนุกการสุนทรียะแห่งอักษรไปเสีย
.
ทั้งหมดเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างผมและภรรยาเดินทางกลับบ้านเกิดใน ฐานะเขยเมืองงาว ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาครับซึ่งนอกจากการไปอ่านหนังสือเล่มเดิมให้จบและเริ่ม เปิดหนังสือเล่มใหม่ ซึ่งมีขนาดที่หนามาก เอามาบูชาไว้นานแล้วถึงคราวอ่านเสียที วันแรกของปีเดินทางไหว้พระในเมืองพะเยา(วัดศรีโคมคำ) ไปงวดนี้เจอรูปปั้นน่าแปลกใจคือเสือและสัตย์ที่จะเป็นอาหาร แต่ก็กลับอยู่แบบเป็นมิตรเลยเก็บภาพมาก ส่วนช่วงเช้าในวันที่ 2 ของปีใหม่ผมได้แวะไปทานโจ๊กหน้าตลาดเมืองงาวอร่อยมาก แต่นึกๆไปก็หวนคิดถึงกลิ่นอายตอนเยือนเมืองยอง ข้าวคุ้น(ข้น) หน้าตาก็ใกล้กันมากเลย
.
เดินทางคราวนี้เรียกว่า อิ่มบุญ อุ่นใจ และสำเร็จในการเรียนรู้ เหลือเพียงบางเรื่องที่ยังคงค้างให้ทำปีนี้ เช่น เรื่อง “เยือนเมืองยอง” เรื่องเล่าที่ยังเขียนไม่เสร็จ และเรื่องเล่าสมัชชาครั้งที่ 7 ที่ยังไม่ได้เริ่มเขียนเลยสักนิด แต่ความความคิดที่อยากเล่า และอยากบันทึกไว้ ใจจึงต้องหอบมาทำข้ามปีครับ (บ้านลำพูน อุโมงค์ : 5.1.58)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ก็ยังดี

 #ก้าวร้อยก้าว ก็ยังดี  ช่วงนี้ ก็มีเรื่องหนึ่งในชีวิตที่ว้าวุ่น ตามประสาก็คือเรื่องลูกชาย ช่วงนี้ของชีวิตเขา มีกีฬาสี ที่แต่ละปีก็จะมีเรื่อ...